Self-Signed Certificates on IIS 7

http://www.robbagby.com/iis/self-signed-certificates-on-iis-7-the-easy-way-and-the-most-effective-way/

http://www.netometer.com/video/tutorials/server-2008-self-signed-certtificate/
http://hansolav.net/blog/SelfsignedSSLCertificatesOnIIS7AndCommonNames.aspx
http://learn.iis.net/page.aspx/144/how-to-setup-ssl-on-iis-70/
http://learn.iis.net/page.aspx/304/using-ftp-over-ssl/
http://serverfault.com/questions/57727/cannot-create-self-signed-ssl-certificate-with-iis-7

http://www.2bbit.com/details.php?id=221097
http://www.2bbit.com/details.php?id=212734

Syntax Highlighter On Blogger

using System;
using System.Collections.Generic;
using System.Web;
using System.Web.UI;
using System.Web.UI.WebControls;
using System.Data.SqlClient;

namespace StockTaking
{
    public partial class _Default : System.Web.UI.Page
    {
        protected void Page_Load(object sender, EventArgs e)
        {
            SqlConnection connection = new SqlConnection();
        }
    }
}

Visual studio Development Server problem in Vista

ปัญหาคือเมื่อ debug หรือ view in browser จะขึ้น error

Internet Explorer can not display the page

วิธีแก้
ไปที่ C:\Windows\System32\drivers\etc\
เปิดไฟล์ชื่อ hosts โดยใช้ Text Editor comment บรรทัด "::1" เป็น "#::1" แล้วก็ save หลังจากนั้นลอง run เว็บใหม่

http://www.vijaykodali.com/post/2009/03/Visual-studio-Development-Server-problem-in-Vista.aspx

Disable auto complete on textbox

เวลาเราสร้าง Textbox ขึ้นมาถ้าเรา Input ทาง Browser มันจะมีชื่อที่เราเคย Input ใน Textbox นั้นมา ถ้าเราไม่ต้องการให้มี List ชื่อที่เราเคยป้อนเข้าใน Textbox นั้นเราก็ Disable มันซะ ตาม code ด้านล่างเลยครับ

ASP.NET

<asp:TextBox ID="txtName" runat="server" AutoCompleteType="Disabled" ></asp:TextBox>

HTML

<input name="txtName" type="text" autocomplete="off" />

SQL Command for dispaly table on database

SQL Command สำหรับแสดงชื่อตารางทั้งหมดใน Database

EXEC sp_tables

ถ้าจะให้แสดงเฉพาะ Table ให้ใช้ Parameter @table_type

EXEC sp_tables @table_type = "'TABLE'"

เรียกใช้ Paremeter ตามลำดับ

EXEC sp_tables Customers, dbo, Northwind, "'TABLE'"

ผลลัพธ์


หรือใช้ Command นี้

SELECT name
FROM sys.tables

ผลลัพธ์



สามารถใช้ Command นี้แสดง Column ของ Table ที่ต้องการได้
ตัวอย่างแสดง Column ของ Table Customers ของ Database Northwind

SELECT name
FROM sys.syscolumns
WHERE (id = OBJECT_ID('Customers'))

ผลลัพธ์

ORACLE String Function Reference

แปลง String เป็นตัวใหญ่ทั้งหมด (UPPERCASE)

SELECT UPPER('Super Louis') FROM dual;

แปลง String เป็นตัวเล็กทั้งหมด (LOWERCASE)

SELECT LOWER('Super Louis') FROM dual;

Function สำหรับ Concat String

SELECT 'String1 ' || 'String2 ' || dummy as concatString
FROM dual;

SELECT CONCAT(CONCAT('String1 ','String2 '),dummy) as concatString
FROM dual

More Information: http://www.psoug.org/reference/string_func.html

รวม Connection String สำหรับ .NET

Windows Authentication

string connectionString = "Data Source=localhost; Initial Catalog=Northwind;" +
"Integrated Security=SSPI";

SQL Server Authentication

string connectionString = "Data Source=localhost; Initial Catalog=Northwind;" +
"user id=sa; password=opensesame";

Oracle OLE DB

string connectionString = "Data Source=localhost; Initial Catalog=Sales;" +
"user id=sa; password=da#ta_li#nk_43;Provider=MSDAORA";

Access

string connectionString = "Provider=Microsoft.Jet.OLEDB.4.0;" +
@"Data Source=C:\DataSources\Northwind.mdb";

Excel

string strExcelConn = "Provider=Microsoft.Jet.Oledb.4.0;Data Source=" +
Server.MapPath("Upload/" + excelFileName) + ";Extended Properties=Excel 8.0";

CSV

string strCsvConn = "Provider=Microsoft.Jet.OLEDB.4.0;Data Source=" +
Server.MapPath("Upload") + ";Extended Properties=\"text;HDR=Yes;FMT=Delimited\"";

Newline on GridView header

การขึ้นบรรทัดใหม่ข้อความที่อยู่ใน Header ของ GridView

ปกติเวลาเราใส่ Tag HTML ใน HeaderText มันจะแสดงเป็น Code HTML เลย
วิธีที่จะทำให้มันไม่แสดงเป็น HTML คือใส่ HtmlEncode="false" เข้าไปทำให้เราสามารถจัดข้อความ HeaderText โดยใช้ HTML ได้ ตัวอย่างด้านล่างผมจะขึ้นบรรทัดใหม่ตรง (ชื่อสินค้า)

<asp:BoundField DataField="ProductName" HeaderText="ProductName<br />(ชื่อสินค้า)"
HtmlEncode="false" SortExpression="ProductName" />

จากตัวอย่างบน Browser Header ของ GridView จะได้เป็น

ProductName
(ชื่อสินค้า)

ถ้าผมไม่ใส่ HtmlEncode="false" ผลลัพธ์จะออกมาเป็น

ProductName<br />(ชื่อสินค้า)

How to use Excel with SQL Server linked servers and distributed queries

การทำ Link Server ไปยัง Excel

More Information http://support.microsoft.com/kb/306397/

Use SQL OPENROWSET OPENDATASOURCE Query Excel

เราสามารถใช้คำสั่ง OPENROWSET OPENDATASOURCE สำหรับ Query ไฟล์ Excel ได้ตามตัวอย่างข้างล่างนี้

ก่อนอื่นถ้ายังไม่เปิดการใช้งาน OPENROWSET OPENDATASOURCE ใน SQL Server 2005 ให้เปิดการใช้งานก่อน ดูวิธีได้ตาม Link นี้
http://usedotnet.blogspot.com/2009/07/sql-server-blocked-access-to-statement.html

ตัวอย่างเป็นการ Query จากไฟล์ C:\Customers.xls ที่ Sheet ชื่อ Customers

SELECT * FROM OPENDATASOURCE('Microsoft.Jet.OLEDB.4.0',
'Data Source=C:\Customers.xls;Extended Properties=Excel 8.0')...[Customers$]

SELECT * FROM OPENROWSET('Microsoft.Jet.OLEDB.4.0',
'Excel 8.0;Database=C:\Customers.xls', [Customers$])

SELECT * FROM OPENROWSET('Microsoft.Jet.OLEDB.4.0',
'Excel 8.0;Database=C:\Customers.xls', 'SELECT * FROM [Customers$]')

SELECT * FROM OPENROWSET('MSDASQL',
'Driver={Microsoft Excel Driver (*.xls)};DBQ=C:\Customers.xls',
'SELECT * FROM [Customers$]')

More Information: http://support.microsoft.com/kb/321686

SQL Server blocked access to STATEMENT 'OpenRowset/OpenDatasource'

ถ้าเกิดปัญหา run query openrowset หรือ opendatasource ไม่ได้เกิด error message ดังนี้

Msg 15281, Level 16, State 1, Line 1
SQL Server blocked access to STATEMENT 'OpenRowset/OpenDatasource' of component 'Ad Hoc Distributed Queries' because this component is turned off as part of the security configuration for this server. A system administrator can enable the use of 'Ad Hoc Distributed Queries' by using sp_configure. For more information about enabling 'Ad Hoc Distributed Queries', see "Surface Area Configuration" in SQL Server Books Online.

ให้ทำดังนี้







หลังจากนั้นลอง run query openrowset อีกครั้ง

หลักการเขียนโปรแกรม 50 ข้อ

1. โปรแกรมแบบพอเพียง(ทำอะไรให้เล็กที่สุดเท่าที่เป็น ไปได้)

2. ทำสิ่งธรรมดาให้ง่าย ทำสิ่งยากให้เป็นไปได้

3. จงโปรแกรมโดยนึกว่าจะมีคนมาทำต่ออย่างแน่นอน

4. ระเบียบ กฏข้อบังคับ เชื่อมั่นไม่ได้แล้ว ถ้ามีเพียงหนึ่งโมดูลไม่ปฏิบัติตาม

5. ตัดสินใจให้ดีระหว่างความชัดเจน(clearance) กับ การขยายได้(extensibility)

6. อย่าเชื่อมั่น output จากโมดูลอื่น ถึงแม้เราจะเป็นคนเขียนเอง

7. ถ้าคนเขียนยังเข้าใจได้ยาก แล้วคนอ่านจะเข้าใจได้ยากกว่าแค่ไหน

8. ค้นหาข้อมูลสามวันแล้วทำหนึ่งวัน หรือจะทำสามวันแล้วแก้บั๊กตลอดไป

9. จงสร้างเครื่องมือ ก่อนทำงาน

10. อย่าโทษโมดูลอื่นก่อน โดยเฉพาะถ้าโมดูลอื่นเป็น OS และ Compiler

11. พยายามทำตามกฏ แต่ถ้ามีข้อยกเว้น ต้องมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วประกาศและตะโกนให้ดังที่สุด

12. High cohesion Loose coupling. (ยึดเกาะให้สูงสุดในโมดูล และ เกาะเกี่ยวกับโมดูลอื่นให้น้อยที่สุด)

13. ให้สิ่งที่เกี่ยวข้องกันยิ่งมากอยู่ไกล้กันมากที่สุด

14. อย่าเชื่อโดยไม่พิสูจน์

15. อย่าลองทำแล้วคอมไพล์ดู ถ้าเราไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์อะไรไว้ (อย่างเช่นปัญหา index off by one)

16. จงกระจายความรู้เพราะนั่นคือการทำ Unit Test ระดับล่างสุด(ระดับความคิด)

17. อย่าเอาทุกอย่างใส่ใน UI เพราะ UI คือส่วนที่ Unit Test ได้ยาก

18. ทั้งโปรเจ็คต์ควรไปในทางเดียวกันมากที่สุด( Consistency )

19. ถ้ามีสิ่งที่ดีอยู่แล้วจงใช้มัน อย่าเขียนเอง ถ้าจำเป็นต้องเขียนเอง ให้ศึกษาจากข้อผิดพลาดในอดีตก่อน

20. อย่ามั่นใจเอาโค้ดไปใช้จนกว่าจะ test อย่างเพียงพอ

21. เอาโค้ดที่ test ไว้ที่เดียวกันกับโค้ดที่ถูก test เสมอ

22. ทุกครั้งที่แก้ไขโค้ดให้ run unit test ทุกครั้ง

23. จงใช้ Unit Test แต่อย่าเชื่อมั่นทุกอย่างใน Unit Test เพราะ Unit Test ก็ผิดได้

24. ถ้าต้องทำอะไรที่ซ้ำกันมากกว่าหนึ่งครั้ง ก็เพียงพอแล้วที่จะแยกโค้ดส่วนนั้นออก

25. ทำให้ใช้งานได้ก่อน แล้วค่อย optimize และถ้าไม่จำเป็น อย่าoptimize

26. ยิ่งประสิทธิภาพเพิ่ม ความเข้าใจง่ายจะลดลง

27. ใช้ Design Pattern ที่เป็นที่รู้จักจะได้คุยกับใครได้รู้เรื่อง

28. อย่าเก็บไว้ทำทีหลัง ถ้ายังไงก็ต้องทำ

29. MutiThreading ไม่ใช่แค่การเพิ่มประสิทธิภาพ แต่มันมาพร้อมกับ Concerency, Deadlock, IsolationLevel, Hard to debug, Undeterministic Errors.

30. จงทำอย่างโจ่งแจ้ง

31. อย่าเพิ่ม technology โดยไม่จำเป็น เพราะนั่นทำให้โปรแกรมเมอร์ต้องวุ่นวายมากขึ้น

32. จงทำโปรเจ็คต์ โดยคิดว่าความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอ

33. อย่าย่อชื่อตัวแปรถ้าไม่จำเป็น เดี๋ยวนี้ IDE มันช่วยขึ้นเยอะแล้วไม่ต้องพิมพ์เองแค่ dot มันก็ขึ้นมาให้เลือก

34. อย่าใช้ i, j , k , result, index , name, param เป็นชื่อตัวแปร

35. ทำโค้ดที่ต้องสื่อสารผ่านเครือข่ายให้คุยกันน้อยที่สุด

36. แบ่งแยกดีดี ระหว่าง Exception message ในแต่ละเลเยอร์ ว่าต้องการบอกผู้ใช้ หรือ บอกโปรแกรมเมอร์

37. ที่ระดับ UI ต้องมี catch all exception เสมอเพื่อกรอง Exception ที่ลืมดักจับ

38. ระวัง คอลัมภ์ allow null ใน database ดีดี ค่า มัน convert ไม่ได้

39. อย่าลืมว่า Database เป็น global variable ประเภทหนึ่ง แต่ละโปรแกรมที่ติดต่อเปรียบเหมือน MultiThreading ดังนั้นกฏของ Multithreading ต้องกระทำเมื่อทำงานกับ Database

40. ระวังอย่าให้ logic if then else ซ้อนกันมากมาก เพราะสมองคนไม่ใช่ CPU จินตนาการไม่ออกหรอกว่ามันอยู่ตรงไหนเวลา Debug (ถ้ามากกว่าสามชั้นก็ลองคิดใหม่ดูว่าเขียนแบบอื่นได้ มั้ย)

41. ระวังอย่าให้ลูปซ้อนกันมากมาก ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็วอย่างเดียว เวลา Debug เราคิดตามมันไม่ได้ (ถ้าเกินสามชั้นก็ไม่ไหวแล้ว)

42. อย่าใช้ Magic Number ใน Code เช่น if( controlingValue == 4 ) เปลี่ยนไปใช้ Enum ดีกว่า เป็น if( controlingValue == ControllingState.NORMAL ) เข้าใจง่ายกว่ามั้ย

43. ถ้าจะเปรียบเทียบ string Trim ซ้ายขวาก่อนเสมอ

44. คิดหลายๆ ครั้งก่อนใช้ Trigger

45. โปรแกรมเมอร์คือห่วงโซ่สุดท้ายของมลพิษทางความซับ ซ้อน ดังนั้นหา project leader ดีดีแล้วกัน

46. มนุษย์ฉลาดกว่าคอมพิวเตอร์ การเขียนโปรแกรมก็คือการสอนให้คอมพิวเตอร์ฉลาดได้เหมือนเรา (มนุษย์ฉลาดกว่าคอมพิวเตอร์จริงๆนะ)

47. จงควบคุมคอม มิใช่ให้คอมควบคุมเรา เราต้องสั่งให้คอมทำงาน ไม่ใช่ให้เราทำงานตามคอมสั่ง

48. อย่าปล่อยให้ข้อจำกัดของคอม มาจำกัดความคิดของเรา [คอมไม่ดีเปลี่ยนเครื่องเลย 55+]

49. ยอมรับความคิดของผู้อื่น แต่อย่าออกจากกรอบของตนเอง

50. หมั่น Save โปรแกรมไว้อย่าสม่ำเสมอ ก่อนที่จะไม่มีโอกาส Save [จะให้ดี Save เป็นแต่ละ Version เลย]

Using sql to padding a string with leading zeros (0)

วิธีการเพิ่ม 0 เข้าไปหน้าตัวเลขโดยใช้ SQL Stored Procedure

DECLARE @number INT
DECLARE @size_of_fixed_string TINYINT
DECLARE @string VARCHAR(10)

SET @number = 40 --ตัวเลขที่จะ add 0
SET @size_of_fixed_string = 10 --จำนวนหลักที่ต้องการ

PRINT REPLICATE( '0', @size_of_fixed_string )

SET @string = LEFT( REPLICATE( '0', @size_of_fixed_string ),
@size_of_fixed_string - LEN( @number ) ) + CAST( @number AS VARCHAR(10) )

PRINT @string

ผลลัพธ์คือ

0000000000
0000000040

หรือ

SELECT LEFT(REPLICATE('0',4),4-len(1)) + CAST(1 AS VARCHAR(10))
SELECT LEFT(REPLICATE('0',4),4-len(20)) + CAST(20+1 AS VARCHAR(10))

บรรทัดแรกตัวเลขคือ 1 จะใช้จำนวนหลัก 4 หลัก
บรรทัดที่สองตัวเลขคือ 20 + 1 จะใช้ 4 หลักเหมือนกัน ผลลัพธ์คือ

0001
0021

Thanks for http://bytes.com/groups/ms-sql/495625-how-can-i-conserve-initial-zero-when-convert-numeric-string-using-str
http://sqlblogcasts.com/blogs/tonyrogerson/archive/2006/05/29/765.aspx

การใช้ adobe photoshop เปิดไฟล์ .ico

ปกติ photoshop จะเปิดไฟล์ .ico ไม่ได้

แต่มีวิธีทำให้เปิดได้โดย download plugin จาก link นี้

http://www.telegraphics.com.au/sw/dl.php?file=ICOFormat-1.6f9-win.zip

พอ download มาแล้วก็แตกไฟล์ ได้ไฟล์ชื่อ ICOFormat.8bi เอาไปวางไว้ใน folder
C:\Program Files\Adobe\Adobe Photoshop CS3\Plug-Ins\File Formats

ก็จะสามารถเปิดไฟล์ .ico เพื่อนำไปใช้งนได้


ที่มา http://www.telegraphics.com.au/svn/icoformat/trunk/dist/README.html

การ disable adobe acrobat updater

เวลาเราเปิด adobe acrobat เพื่อดู eBook ต่าง ๆ บางคนอาจจะรำคาญ ตัว updater

การยกเลิกตัว updater ทำได้โดย

หาไฟล์ชื่อ “AdobeUpdaterPrefs.dat” ซึ่งจะอยู่ใน c:\Documents and Settings\UserName\Local Settings\Application Data\Adobe\Updater5

แล้วเปิดไฟล์นี้ด้วย Notepad แล้วเปลี่ยนบรรทัด 2008-10-29 ให้เปลี่ยนปีเป็นเยอะ ๆ ไปเลย เช่น 2010

จากนั้นเราก็จะไม่รำคาญไอ้เจ้าตัว adobe updater ต่อไป

ที่มา http://garmahis.com/tips/how-to-disable-adobe-updater/

Short condition on C#

เป็นการเขียน Condition แบบสั้น โดยให้เลือกค่าสูงสุดระหว่างตัวแปร a,b
โดยสามารถยุป if มาเป็นบรรทัดเดียวได้ดัง Code ด้านล่าง

using System;

public class MyClass
{
public static void Main()
{
int a = 5;
int b = 10;
int R1, R2;

if (a>b)
{
R1 = a;
}
else
{
R1 = b;
}
Console.WriteLine("R1 = " + R1);

R2 = a > b ? a : b;
Console.WriteLine("R2 = " + R2);

Console.ReadLine();
}
}

VB.NET C# Comparision

http://www.harding.edu/fmccown/vbnet_csharp_comparison.html

DateTime Oracle

http://www.dba-oracle.com/t_date_math_manipulation.htm
http://www.psoug.org/reference/date_func.html
http://www.akadia.com/services/ora_date_time.html

ALTER SESSION SET TIME_ZONE = '+7:0';

select sysdate from dual

select add_months( sysdate,2)
from dual



select user_id,
to_char( to_date('01011970','ddmmyyyy') + 1/24/60/60 * view_date, 'dd-mm-yyyy hh24:mi:ss') AS TS2Date,
to_char( to_date('01011970','ddmmyyyy') + 1/24/60/60 * view_date, 'mm-yyyy') AS TS2Date2,
score,
max_score,
pass_score,
result,
course_id
from test_history


select sysdate + 1/24/60/60 + 420/1440
from dual

select sysdate + 1/24/60/60
from dual;

select sysdate + 420/24/60
from dual

select to_date('01011970','ddmmyyyy') + 1/24/60/60
from dual

select TRUNC(SYSDATE+1/24,'HH')
from dual

Connect to SQL Server Database using SqlDataReader

แบบที่ 1

SqlConnection conn = new SqlConnection("Data Source=.\\sqlexpress;Initial Catalog=Northwind;Integrated Security=true");
SqlCommand cmd = new SqlCommand("SELECT * FROM [Categories]",conn);
SqlDataReader rdr = null;

try
{
conn.Open();
rdr = cmd.ExecuteReader();
while(rdr.Read())
{
Response.Write(rdr["CategoryID"] + " " + rdr["CategoryName"] + " " + rdr["Description"] + "<br/>");
}
}
catch(Exception ex)
{
Response.Write("Error!! " + ex.Message);
}
finally
{
if(rdr != null)
rdr.Close();
if(conn.State == ConnectionState.Open)
conn.Close();
}

แบบที่ 2

using (SqlConnection conn = new SqlConnection("Data Source=.\\sqlexpress;Initial Catalog=Northwind;Integrated Security=true"))
{
try
{
SqlCommand cmd = new SqlCommand("SELECT * FROM [Categories]", conn);
SqlDataReader rdr = null;
conn.Open();
rdr = cmd.ExecuteReader();
while (rdr.Read())
{
Response.Write(rdr["CategoryID"] + " " + rdr["CategoryName"] + " " + rdr["Description"] + "<br/>");
}
}
catch (Exception ex)
{
Response.Write("Error!! " + ex.Message);
}
}

การ reset Always ask before opening this type of file

http://www.winhelponline.com/blog/reset-the-always-ask-before-opening-this-type-of-file-setting/

วิธีทำให้แสดงคำอธิบาย และผลการ Return ค่าของฟังก์ชั่นใน VS.NET

C# พิมพ์ /// ที่บรรทัดก่อนบรรทัด function

ส่วน vb ก็ ''' ครับ

เมื่อพิมพ์แล้ว VS.NET จะ Generate Template การใส่มาให้โดยอัตโนมัติ

http://greatfriends.biz/webboards/msg.asp?b=SURREALIST&id=96617